FAQs

frequently asked questions
You are here:

มารุ้จักรถอีแต๋นกันเถอะ

เมื่อพูดถึงรถอีแต๋น คนส่วนใหญ่มักนึกถึงรถที่อยู่ตามทุ่งนามีเสียงดัง แต๊กๆๆๆๆ เป็นภาพที่คุ้นตาคนไทยมาหลายยุคหลายสมัยด้วยกัน รถอีแต๋นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการขนย้ายพืชผลทางการเกษตร ของเกษตรกรไทย

โดยนำชิ้นส่วนรถยนต์เก่าที่หาได้มาประกอบเข้ากับเครื่องยนต์ 1 สูบที่แสนจะประหยัดน้ำมันโดยมีเทคโนโลยีที่ไม่ซับซ้อนมากนักแต่ด้วยภูมิปัญญาชาวไทยพื้นบ้านนี้ก็สามารถช่วยผ่อนแรงในการขนย้ายวัสดุและพืชผลของเกษตรกรได้ดีเลยทีเดียว ถึงจะไม่เพียบพร้อมเทียบเท่ารถบรรทุกที่มากด้วยเทคโนโลยี่ แต่ด้วยวิถีชีวิตของคนไทยในสมัยก่อนที่ไม่รีบเร่งหรือต้องแข่งขันอะไรมากนัก

อะไหล่เก่าที่หาได้ภายในท้องถิ่นจึงไม่เป็นปัญหาถ้าจะต้องใช้บ้าง ซ่อมบ้างก็ไม่หนักหนาอะไร จากการใช้งานแคบๆในหมู่เกษตรกรไทย สู่ธุรกิจที่หลากหลายในปัจจุบันรถอีแต๋นจึงไม่สามารถใช้ไปซ่อมไปได้อีก

การผลิตจึงต้องมีการพัฒนาและมีมาตรฐานมากขึ้นแต่อย่างไร รถอีแต๋นก็ยังคงเป็นรถยนต์ที่เกิดขึ้นมาจากภูม่ปัญญาคนไทยอย่างแท้จริงเป็นรถที่มีจุดเด่นในเรื่องความประหยัดอย่างชัดเจน

1. รถอีแต๋นมีกี่ประเภท

รถอีแต๋นแบ่งออกเป็น2ประเภทใหญ่คือ
1. สำหรับการเกษตร ประกอบด้วยรถอีแต๋นแบบบรรทุกและรถอีแต๋นแท้งค์น้ำ
2. สำหรับงานก่อสร้าง คือ รถอีแต๋นติดโม่ปูนขนาดต่าง ๆ

2. รถอีแต๋นแบบบรรทุกมีขนาดบรรทุก ได้กี่ตันบ้าง

รถอีแต๋นแบบบรรทุกมี 3 ขนาดบรรทุก คือ 2.5 ตัน , 3.5 ตัน และ 4 ตัน

3. รถอีแต๋นแบบต่างๆใช้เครื่องยนต์ อะไร , ยี่ห้ออะไร

ส่วนใหญ่รถอีแต๋นใช้เครื่องยนต์ 1 สูบ แต่สำหรับลูกค้าที่ต้องการความเร็วและบรรทุกมากๆทางร้านก็มีเครื่องยนต์ 4 สูบ ใส่ให้ลูกค้าเช่นกัน

4. รถอีแต๋นสามารถจดทะเบียนได้รึเปล่า

ตามกฎกระทรวงรถอีแต๋นสามารถจดทะเบียนได้ แต่ต้องมีน้ำหนักตัวรถไม่เกิน 1,600 กก. และมีอุปกรณ์ไฟถูกต้องตามขนส่งทางบก

5. รุ่นที่จดทะเบียนไม่ได้ จะมีปัญหากับตำรวจรึเปล่า

โดยปกติรถอีแต๋นเป็นรถที่ใช้อยู่ในที่ส่วนบุคคล จึงไม่มีปัญหาเรื่องตำรวจ

6. การรับประกันเป็นเวลาเท่าไหรและมีอะไรบ้าง

ทางบริษัทรับประกันให้ลูกค้า 6 เดือน เป็นการรับประกันชิ้นส่วนที่เกิดขึ้นจากการผลิตของโรงงานทั้งหมดค่ะ

7. อะไหล่ที่ใช้ทำรถอีแต๋นหาซื้อได้ที่ไหนบ้าง เวลาที่มีปัญหาหรือหมดรับประกันแล้ว

สามารถหาซื้อได้ตามร้านอะไหล่ทั่วไป แต่อย่างไรก็ดีลูกค้าสามารถซื้อชิ้นส่วนทุกชิ้นได้ที่ บริษัทไพบูลย์เพชรบุรีเพราะเราเป็นโรงงานผู้ผลิตรถรถอีแต๋น จึงมีอะไหล่ จำหน่าย

8. สามารถเลือกสีได้รึเปล่า

ลูกค้าสามารถเลือกสีได้ตามความต้องการ

9. รูปแบบของกะบะลูกค้าสามารถ กำหนดได้เองรึเปล่า

รูปแบบกะบะลูกค้ากำหนดได้ตามความ เหมาะสมของการใช้งานของลูกค้าค่ะ

1. สเป็กรถอีแต๋น สเป็กของรถที่กล่าวอ้างเกินจริง

รถอีแต๋นที่รับน้ำหนักขนาด 3 ตัน แต่ผู้ผลิตใช้ล้อและยางขนาดแค่ 14 นิ้ว เท่านั้น บ้างใช้แหนบที่สามารถรับน้ำหนักได้แต่ขนาดของช่วงล่างเพียงพอหรือ? ลูกค้าต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงเหล่านี้ และอื่นๆด้วย

2. ราคารถอีแต๋น ราคาที่ถูกหรือแพงเกินไป

ผู้ประกอบการทุกรายต้องมีกำไร ดังนั้นราคาที่ถูกเกินไปนั้นหมายถึงวัตถุดิบอาจขาดคุณภาพ หรือ ราคาที่แพงจนเกินไปนั้นหมายถึงการซื้อจากร้านค้าที่ไม่มีมาตรฐานราคา ทำให้ลูกค้าคาดหวังกับตัวสินค้ามากตามราคาที่เกินจริง

3. ชิ้นส่วนประกอบรถอีแต๋น อะไหล่เก่าญี่ปุ่น

อะไหล่ที่นำมาประกอบรถอีแต๋นทั่วไป จะเป็นอะไหล่เก่าญี่ปุ่น จำกัดเฉพาะบางรุ่น ดังนั้นเมื่อ 30 ปีที่แล้วใช้ ปัจจุบันก็ยังใช้รุ่นนั้นๆ อยู่ ลูกค้าต้องมั่นใจว่าร้านผู้ผลิตได้ใช้อะไหล่ที่มีคุณภาพประกอบรถ

4. วัสดุกระบะรถอีแต๋น เลือกวัสดุถูกต้องเพิ่มอายุการใช้งาน

วัสดุที่ประกอบกระบะรถอีแต๋นนั้นมีหลักๆ ได้แก่ เหล็ก, ไม้ และสแตนเลส การเลือกชนิดไหนก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน เพราะถ้าเลือกผิดจะส่งผลเสียรุ่นแรงต่อแชสซีส์ เช่น รถอีแต๋นที่ใช้งานบรรทุกในฟาร์มกุ้ง จะต้องใช้กระบสแตนเลสหรือไม้

5. ความเร็วรถอีแต๋น

ความเร็วของรถอีแต๋นนั้นจะถูกกำหนดให้สัมพันธ์กับน้ำหนักบรรทุกตามสเป็กที่กำหนด โดยปกติจะอยู่ที่ 40-50 กม./ชม. แต่ถ้าต้องการให้เร็วขึ้นอีกก็สามารถทำได้โดยการเพิ่มขนาดเครื่องยนต์ หรือ ลดสเป็กน้ำหนักบรรทุก

6. อายุการใช้งานรถอีแต๋น

อายุการใช้งานของรถอีแต๋น ก็เช่นเดียวกับรถยนต์ทั่วไป การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ สามารถยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้นอีก โดยทั่วไปสำหรับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม ไร่-ฟาร์ม (รถบริษัท) อายุเฉลี่ย 5-10 ปี และสำหรับการใช้งานส่วนบุคคล อายุเฉลี่ย 10 ปีขึ้นไป

7. การจดทะเบียนรถอีแต๋น

รถอีแต๋นสามารถนำไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกได้ เนื่องจากรัฐบาลได้มีกฏหมายออกมารองรับให้รถอีแต๋นสามารถจดทะเบียน โดยเสียภาษีประจำปี และใช้งานบนท้องถนนได้ตามกฎหมาย ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2525) ออกตามความในพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2552 มีเนื้อหาว่า ต้องใช้เครื่องยนต์ที่มิได้ใช้สำหรับรถยนต์โดยเฉพาะมาติดตั้ง น้ำหนักตัวรถต้องหนักไม่เกิน 1600 กก. ความกว้างตัวรถต้องไม่เกิน 2 เมตร และความยาวตัวรถต้องไม่เกิน 6 เมตร มีลักษณะเป็นรถสี่ล้อหรือรถสามล้อก็ได้ มีระบบไฟฟ้า ได้แก่ ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว และมีกระจกมองข้าง เช่นเดียวกับรถประเภทอื่น ๆ